
ประชาชนในพื้นที่ ต.หนองโพ ต.เขากะลา ต.หัวหวาย ต.บ้านไร่พัฒนา จำนวนกว่า 800 คน ร่วม “คัดค้านเหมืองแร่” ณ วัดคีรีรัตนารา (วัดเขาปูน) ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จัดโดย “กลุ่มคนหนองโพไม่เอาเหมือง” โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวบ้านรับรู้ถึงผลกระทบความเสี่ยงของโครงการเหมืองแร่เหล็กที่กำลังจะเกิดขึ้นในชุมชน ผ่านการอัพเดทสถานการณ์การต่อสู้คัดค้านเหมืองแร่ทั่วทั้งประเทศ เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับชาวบ้านในพื้นที่และให้กำลังใจชาวบ้าน ด้านนักวิชาการแนะ “เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องควรตระหนักถึงชาวหนองโพให้มากอย่างยิ่ง”

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์เข้าร่วม เวทีชาวบ้าน “คัดค้านเหมืองแร่” ว่าด้วยสิทธิชุมชน สิทธิองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการปกป้องทรัพยากร ณ วัดคีรีรัตนารา (วัดเขาปูน) ต.หนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งจัดโดย “กลุ่มคนหนองโพไม่เอาเหมือง” โดยมีจุดประสงค์ให้ชาวบ้านรับรู้ถึงผลกระทบความเสี่ยงของโครงการเหมืองแร่เหล็กที่กำลังจะเกิดขึ้นในชุมชน
ในเวลา 15.00 น. ประชาชนในพื้นที่ ต.หนองโพ ต.เขากะลา ต.หัวหวาย ต.บ้านไร่พัฒนา จำนวนกว่า 800 คน ได้เข้าร่วมเวทีชาวบ้าน จัดโดยกลุ่มหนองโพไม่เอาเหมือง โดยมีวิทยากรร่วมเวทีจากหลากหลายเครือข่ายทั้งภาคประชาสังคมสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ ภาควิชาการจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ตัวแทนสมาชิกสภาผู้ชมผู้ฟังรายการไทยพีบีเอสภาคกลาง ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมืองนครสวรรค์สถาบันพระปกเกล้า รวมถึงหน่วยงานทางปกครองและฝ่ายความมั่นคงในท้องที่
ในช่วงแรกของเวที วิทยากรจากภาคประชาสังคมสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อัพเดทสถานการณ์การต่อสู้คัดค้านเหมืองแร่ทั่วทั้งประเทศ เพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับชาวบ้านในพื้นที่และให้กำลังใจชาวบ้าน
ต่อมาวิทยากรภาควิชาการจากสาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ได้ชี้ให้เห็นถึงการละเมิดสิทธิของชุมชนจากการทำเหมืองแร่ และให้ข้อมูลด้านสิทธิในการต่อสู้ พร้อมกล่าวในตอนท้ายว่าเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องควรตระหนักถึงชาวหนองโพให้มากอย่างยิ่ง

ทั้งนี้วิทยากรจากกลุ่มคนรักษ์เขากะลาภายใต้เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ ได้แชร์ประสบการณ์ผลกระทบที่เกิดจากการทำเหมืองหินและโรงโม่ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่สามารถป้องกันได้จริงตามมาตรการป้องกันผลกระทบในรายงาน EIA และกล่าวต่อว่าการระเบิดเขาทำเหมืองเหล็กจะทำให้ชาวบ้านที่ใช้น้ำบาดาลในการทำเกษตรได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง อีกทั้งการปนเปื้อนของสารหนูสารเคมีในแปลงเกษตรของชาวบ้าน
โดยวิทยากรจากสมาชิกสภาผู้ชมผู้ฟังรายการไทยพีบีเอสภาคกลางได้ให้ข้อมูลขั้นตอนการขอประทานบัตร รวมถึงอัพเดทสถานการณ์ขั้นตอนของโครงการเหมืองหินในพื้นที่ พร้อมทั้งวิเคราะห์สภาพการณ์ของปัญหาเพื่อเสนอช่องทางการใช้สิทธิปกป้องชุมชน
ในช่วงท้ายก่อนปิดเวทีได้มีการอ่านคำประกาศของกลุ่มคนหนองโพไม่เอาเหมืองร่วมกับเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์
ทั้งนี้ชาวหนองโพไม่เอาเหมือง ส่งสัญญาณถึงผู้เข้าร่วมเวทีและชาวบบ้านที่คัดค้านการทำเหมืองทุกคน ว่าจะมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีการรับรองในเจตารมณ์ของชุมชน จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนของสังคม รวมถึงภาคประชาชน องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน ร่วมกันจับตาการละเมิดสิทธิทุกรูปแบบ สนับสนุนการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และร่วมมือกันเพื่อสร้างสังคมที่เคารพสิทธิชุมชน เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง
คําประกาศกลุ่มคนรักษ์เขาปูน-เขาใหญ่ กับเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์
เรื่อง คัดค้านการทําเหมืองแร่เหล็กในพื้นที่เขาปูน–เขาใหญ่ ตําบลหนองโพ อําเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
ด้วยบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ยื่นคําขอประทานบัตรทําเหมืองแร่เหล็กในพื้นที่เขาปูน–เขาใหญ่ จํานวนกว่า 221 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่เขาหินปูนอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำ แหล่งอาศัยของสัตว์ และพรรณพืชนานาชนิด อีกทั้งยังเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และจิตวิญญาณของชุมชนมายาวนาน
เครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์ ซึ่งประกอบด้วยประชาชนจากหลายตําบล หลายอําเภอ ขอประกาศจุดยืนร่วมกันว่า “เราคัดค้านอย่างเด็ดขาดต่อการขอประทานบัตรทําเหมืองแร่เหล็กในพื้นที่เขาปูน–เขาใหญ่ และจะร่วมกันปกป้องผืนแผ่นดินนี้ด้วยทุกวิถีทางที่สันติและชอบด้วยกฎหมาย” เหตุผลของการคัดค้าน มีดังนี้
1. พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งต้นน้ำและป่าน้ำซับซึม ซึ่งตาม มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 ระบุชัดว่า ไม่สามารถกําหนดให้เป็นเขตแหล่งแร่เพื่อการทําเหมืองได้
2.กระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ ทั้งโรงเรียน วัด ชุมชน และกิจการร้านค้าของประชาชนหลายร้อยครัวเรือนจะได้รับผลกระทบจากฝุ่น เสียง แรงสั่นสะเทือนจากการระเบิด และมลพิษจากกระบวนการทําเหมือง
3.เป็นการละเมิดสิทธิของชุมชนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 43 ซึ่งรับรองสิทธิของบุคคลและชุมชนในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงสิทธิในการคัดค้านโครงการที่มีผลกระทบ
4.ขัดต่อหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนและสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อม ที่ยึดโยงกับพันธกรณีของรัฐไทยต่อประชาคมโลก และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านความเป็นธรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
ด้วยเหตุนี้ กลุ่มคนรักษ์เขาปูน-เขาใหญ่ และเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรฯ ขอประกาศว่า
1. เราไม่เห็นด้วยและคัดค้านอย่างถึงที่สุด ต่อการออกประทานบัตรเหมืองแร่เหล็กในพื้นที่เขาปูน–เขาใหญ่
2. เราขอเรียกร้องให้ หน่วยงานภาครัฐทุกระดับยุติขั้นตอนการอนุมัติ ปฏิเสธการทําเหมืองและเพิกถอนพื้นที่เขาปูน-เขาใหญ่ ออกจากแผนการทําเหมืองทันที
3. เราจะเคลื่อนไหวอย่างสันติ ตามสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพื่อปกป้องทรัพยากรแห่งชีวิต ทึ้งภูเขา แหล่งน้ำ และคุณภาพชีวิตของชุมชน จนถึงที่สุด
“นี่คือสัญญาประชาคมเขาเรา และสิทธิของเรา จะต้องไม่มีใครพรากหรือถูกแย่งไป “เขาปูน–เขาใหญ่” คือสมบัติของเราทุกคน ไม่ใช่สินทรัพย์ผลประโยชน์ของใครอื่น! เราจะไม่ยอมแลกภูเขากับก้อนแร่ แลกผืนป่าต้นน้ำกับฝุ่นควัน! เราจึงยืนหยัดร่วมกัน เพื่อปกป้องทรัพยากรและอนาคตของคนนครสวรรค์”
กลุ่มคนรักษ์เขาปูน-เขาใหญ่ ร่วมกับเครือข่ายชุมชนปกป้องทรัพยากรนครสวรรค์
ประกาศไว้ ณ วันที่11 มิถุายน 2568