
เครือข่ายประชาชนชาวใต้กว่า 100 เครือข่าย รวมตัวกันที่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้ผลักดันกฎหมายกำกับการพัฒนาภาคใต้ฉบับหนึ่งเรียกว่า พระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะนำไปสู่การยึดกุมทรัพยากรในแผ่นดินภาคใต้นำไปให้กับนักลงทุนต่างชาติ กฎหมายฉบับนี้จะก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง ครอบคลุมพื้นที่14จังหวัดภาคใต้และยึดกุมยาวนานชั่วลูกชั่วหลาน
กฎหมายการพัฒนาระดับพระราชบัญญัติที่ชื่อว่า พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะคือการสถาปนาแม่บทแห่งการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลต่อทุกคนรวมและทรัพยากรธรรมชาติทั้งมวล ภายใต้ความสำคัญเช่นนี้ควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ รับฟังอย่างรอบด้านและกำหนดมาตรการจากข้อเท็จจริงของพื้นที่ แต่ในความจริงกลับปรากฎว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการตรงกันข้ามด้วยการกำหนดกฎหมายการพัฒนาภาคใต้จากการลอกกฎหมายฉบับอื่นมาสวมทับคนใต้เสมือนว่าถ้าจะพัฒนาภาคใต้ไม่จำเป็นต้องขบคิดใคร่ครวญว่าคนใต้จะเป็นอย่างไร
เนื้อหาของกฎหมายฉบับคณะรัฐมนตรีทั้ง 71 มาตรา ไม่ปรากฎว่าคนใต้อยู่ในสมการการพัฒนาเพราะเมื่อประมวลเนื้อหาทั้ง71มาตราแล้ว กฎหมายบับนี้ทำบีบให้คนใต้มีหน้าที่เพียง 2ประการคือหน้าที่การรับรู้ข้อมูลข่าวสารและรับการเยียวยาจากผลกระทบ เมื่อพิจารณาเนื้อหาทั้งหมดก็สอดคล้องกับความตั้งใจของรัฐบาลนั้นคือการไม่ให้คุณค่าคนท้องถิ่นและศัยกยภาพของพื้นที่ โดยทั้ง71มาตรา มุ่งสู่เป้าหมาย2ประการคือ การยกเว้นกฎหมายเพื่อทำให้นักลงทุนดำเนินการลงทุนได้อย่างสะดวกและการกำหนดมาตรการพิเศษเพื่อจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาครอบครองทรัพยากร ทิศทางของกฎหมาย SEC บ่งชี้ชัดเจนว่าถ้าภาคใต้จะเจริญต้องยกกรรมสิทธิ์ในปัจจัยการพัฒนาทั้งปวงแก่นักลงทุน

หากปล่อยให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาจะก่อการเปลี่ยนแปลงเชิงลบต่อเศรษฐกิจการเกษตรและการท่องเที่ยว ประชาชนจะสูญเสียที่ดิน รวมทั้งพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการเกษตร การประมงและกิจการท่องเที่ยวจะเหลือน้อยลง ภาคใต้จะถูกยึดน้ำเพื่อนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม ผังเมืองจะเปลี่ยนแปลงรองรับการเกิดนิคมอุตสาหกรรม ที่ดินและแหล่งน้ำจะกลายเป็นแหล่งรองรับขยะอุตสาหกรรม ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ต่างชาติจะมีสิทธิเหนือกว่าคนไทย
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้รัฐบาลกำหนดไว้ว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม2568 โดยในเดือนกรกฎาคมนี้จะนำร่างเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร หากเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดปีหน้า2569ภาคใต้จะมีแผ่นดินใหม่นั่นคือหนึ่งพื้นที่สองการปกครอง คนใต้จะเริ่มต้นกลายเป็น ‘คนพื้นเมือง’ซึ่งกฎหมายจะยกเว้นไม่คุ้มครอง ส่วนต่างชาติจะอยู่ภายใต้กฎหมายพิเศษที่ได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษ

จึงเป็นวาระสำคัญยิ่งที่คนใต้จะต้องช่วยกันสร้างการรับรู้เพื่อให้เกิดการตื่นตัวต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ วันนี้ 1มิถุนายน 2568 ณ.สี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จึงถือเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของเครือข่ายประชาชนภาคใต้จำนวนนับ100เครือข่าย เพื่อประกาศเจตนารมณ์ต่อรัฐบาลว่า ประชาชนภาคใต้จะไม่ยินยอมให้เกิดกฎหมายพิเศษเช่นนี้ขึ้น เราจะปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการตื่นตัวแก่คนใต้และคนทั่วประเทศเพื่อต้านทานการนำทรัพยากรของประชาชนไปให้นักลงทุนต่างชาติถือครอง
ขอน้อมเตือนไปยังรัฐบาลว่าจงเดินกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องนั่นคือยุติการดำเนินการเพื่อให้พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้สู่การบังคับใช้ หากรัฐบาลยังไม่ยินยอมยุติการเดินหน้ากฎหมายฉบับนี้ เราจะใช้ความพยายามทั้งมวลยกระดับปฏิบัติการเพื่อปกป้องแผ่นดินภาคใต้ที่เป็นของประชาชน มิให้คณะรัฐบาลชุดนี้นำไปขายให้กับต่างชาติ
